- สำหรับความหมายอื่น ดูที่ บัวขาว (แก้ความกำกวม)
ข้อมูลส่วนตัว | ||
---|---|---|
ชื่อจริง | สมบัติ บัญชาเมฆ[1] | |
ฉายา | ดำดอตคอม แบล็กโกลด์,บัวขาว ป.ประมุข | |
วันเกิด | 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 [1] | |
สถานที่เกิด | บ้านสองหนอง อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย | |
ส่วนสูง | 1.74 ม. (5 ฟุต 9 นิ้ว) | |
น้ำหนัก | 69.5 กก. (153 ปอนด์) | |
รุ่น | เฟเธอร์เวท ไลท์เวท เวลเตอร์เวท จูเนียร์มิดเดิลเวท | |
ค่ายมวย | ค่ายมวย ป.ประมุข[2]ค่ายมวยบัญชาเมฆ | |
ผู้จัดการ | ประมุข โรจนตัณฑ์ ธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ | |
ผู้ฝึกสอน | สายชล ธรรมรงศ์ | |
สถิติ | ||
ชก | 415 | |
ชนะ | 365 | |
ชนะน็อก | 207 | |
แพ้ | 45 | |
เสมอ | 5 |
สมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว ป.ประมุข [2] เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 เป็นนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการการต่อสู้ระดับสากล โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่น เป็นนักมวยไทยสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข ส่วนสูง 174 เซนติเมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม บัวขาวจัดเป็นหนึ่งในนักกีฬาอาชีพไทยที่ทำรายได้สูง โดยส่วนใหญ่มาจากการชกมวยที่ต่างประเทศ นอกจากนี้แล้ว ยังมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์ไทยเรื่อง ซามูไร อโยธยา[3] และใน พ.ศ. 2554 บัวขาวได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการไทยไฟท์ ที่ประเทศไทย ในรุ่น 70 กิโลกรัม[4] ซึ่งได้เป็นแชมป์ของการแข่งขันครั้งนี้อีกด้วย[5]
บัวขาวเข้าแข่งขันไทยไฟต์อีกครั้งในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยครั้งนี้ได้พบกับ เมาโร เซียรา ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวอิตาลี และบัวขาวเป็นฝ่ายชนะน็อค[6]
เนื้อหา[ซ่อน] |
ประวัติ [แก้]
สมบัติ บัญชาเมฆหรือบัวขาวเกิดและเริ่มชีวิตอาชีพมวยไทย ตั้งแต่เมื่ออายุได้ 8 ขวบ ที่อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ เข้ากรุงเทพมาสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข เมื่ออายุได้ 15 ปี บัวขาวได้รับเข็มขัดแชมป์มาครองเป็นจำนวนมากภายหลังเริ่มอาชีพมวยไทยที่กรุงเทพ ได้แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท แชมป์ประเทศไทยรุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อยอีกครั้ง ในรุ่นไลท์เวท ในปี พ.ศ. 2545 บัวขาวชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ชนะโคบายาชินักชกชาวญี่ปุ่น[7]
พ.ศ. 2547 บัวขาวชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2004 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยชนะจอห์น เวย์น พาร์ นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย โคะฮิรุยมาคิ และมาซาโตะแชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น[7] และในปีต่อมา บัวขาวเกือบที่จะรักษาแชมป์รายการ เค-วัน ได้ โดยแพ้คะแนน แอนดี้ ซอเยอร์ ในนัดชิงชนะเลิศอย่างน่ากังขา[1]
พ.ศ. 2549 บัวขาวเข้าชิงชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็นแชมป์ได้อีกครั้ง[7] โดยเป็นนักมวยคนแรกในรายการนี้ที่ชนะเลิศสองสมัย
พ.ศ. 2550 บัวขาวเข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2550 บัวขาวสามารถผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายโดยชนะคะแนน ไนกีย์ "เดอะ เนเจอรัล" โฮลต์ซเคน นักมวยชาวฮอลแลนด์
พ.ศ. 2551 บัวขาวเข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยบัวขาวแพ้น็อกให้กับ โยชิฮิโร่ ซาโตะ นักมวยชาวญี่ปุ่น แฟนมวยบางส่วนกังขาว่ามีการล้มมวยหรือไม่ แต่พิจารณาแล้วพบว่าบัวขาวแพ้น็อกจริงๆ ด้วยเข่าของซาโตะทำให้จุกและโดนหมัดฮุคเข้ากกหูสลบคาเวที เป็นความเสียใจของคนไทยครั้งหนึ่ง
พ.ศ. 2552 บัวขาวเข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยคราวนี้สามารถเข้าถึงรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ต้องมาแพ้คะแนนให้แอนดี้ ซาวเวอร์ คู่ปรับเก่าอย่างน่ากังขาอีกหน บัวขาวถึงกับออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยากให้กรรมการชี้แจงผลการตัดสิน แฟนมวยเควันต่างพากันเห็นใจบัวขาวโดยมีหลักฐานคือผลโหวตนักสู้เค-วันแม็กซ์ของปีนี้ บัวขาวได้เป็นอันดับ 2 ด้อยกว่าเพียง จอร์จิโอ เปโตรเซียน แชมเปี้ยนรายการเควันปีนี้เท่านั้น
ใน พ.ศ. 2554 บัวขาวได้เข้าแข่งขันในรายการไทยไฟท์ โดยเป็นฝ่ายชนะน็อค ไมเคิล พิซิเทโล่ ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ และได้พบกับแฟร้งค์ จอร์จี้ จากประเทศออสเตรเลียในรอบชิงชนะเลิศที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 18 ธันวาคม ของปีเดียวกันนี้[8] ซึ่งบัวขาวเป็นฝ่ายชนะ และครองแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้[5]
พ.ศ. 2555 บัวขาวตกเป็นข่าวฮือฮาเมื่อได้หายตัวออกจากค่ายอย่างเป็นปริศนา หลังจากนั้นไม่นาน บัวขาวก็ได้ปรากฏตัวพร้อมเผยว่า ที่ต้องหนีออกจากค่ายเนื่องจากไม่พอใจในหลาย ๆ อย่าง และต้องการเป็นอิสระ ซึ่งทางค่าย ป.ประมุขก็ได้เผยว่า หากบัวขาวขึ้นชกต่อไป จะถือว่าผิดสัญญาตามกฎหมาย และจะทำการฟ้องร้อง แต่ในในวันที่ 17 เมษายน บัวขาวได้ขึ้นชกในรายการไทยไฟท์ ในนัดเปิดรายการ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา ในรุ่น 70 กิโลกรัม ในฐานะแชมป์เก่า เป็นฝ่ายเอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 ซึ่งหลังการชก บัวขาวเปิดเผยว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม [9] ปัจจุบัน ทำค่ายมวยที่บ้านเกิดบ้านสองหนอง อำเภอสำโรงทาบจ.สุรินทร์ "ค่ายบัญชาเมฆ"เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสศึกษาศิลปะแม้ไม้มวยไทย
การหายตัวไปใน พ.ศ. 2555 [แก้]
ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555 บัวขาวได้หายตัวไปอย่างลึกลับ และไม่สามารถติดต่อได้[10][11] โดยทางฝ่ายจัดการได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนแผนการแข่งขันที่จะจัดขึ้นทั้งในประเทศฝรั่งเศส และอังกฤษ[1][12] โดยมีการกล่าวถึงการหายตัวของบัวขาวในสื่อมวลชนหลายแห่ง ทั้งในและนอกประเทศไทย[13][14] และในที่สุด บัวขาวก็ได้เปิดเผยตัว โดยให้สัมภาษณ์ว่า ที่หายตัวนั้นไปไม่ได้เป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่ตัดสินใจอย่างดีแล้ว เนื่องจากไม่พอใจในเรื่องส่วนแบ่งค่าตัวของตัวเอง และนักมวยรุ่นน้องในค่าย[15]
ที่สุดในวันที่ 17 เมษายน ปีเดียวกัน บัวขาวได้ขึ้นชกในรายการไทยไฟท์ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา ในรุ่น 70 กิโลกรัม ในฐานะแชมป์เก่า และถือเป็นนักมวยแทน ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง ที่พักผ่อนไม่เกิน 21 วัน ตามพระราชบัญญัติกีฬามวย โดยเป็นฝ่ายเอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 ซึ่งหลังการชก บัวขาวเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฎหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม เพราะก่อนหน้านั้นทางค่าย ป.ประมุข ได้เปิดเผยสัญญาว่า หากบัวขาวขึ้นชกในรายการนี้โดยที่ไม่สังกัดค่ายจะถือว่าผิดกฎหมาย และจะทำการฟ้องร้อง[16]
บัวขาว ได้ร่วมกับ ดี พุฒหอม (ครูมวยคนแรก) และ ทอง บุรากร (เทรนเนอร์คนแรก) เปิดค่ายฝึกสอนมวยไทย ที่จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้ชื่อค่าย "บัวขาว" หรือ "บัญชาเมฆ" เป็นชื่อชั่วคราว[17] ก่อนที่จะเซ็นสัญญาร่วมกับค่ายมวย ป.ประมุขอีกครั้งเป็นระยะเวลา 5 ปี[2]
โปรโมเตอร์ [แก้]
บัวขาว ได้เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันชกมวยเองเมื่อปี พ.ศ. 2556 ในรายการ "แม็กซ์เวิลด์แชมเปี้ยน 2013" ที่สนามสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ซึ่งเป็นรายการการแข่งขันมวยไทยในระดับนานาชาติ ในแบบทัวร์นาเมนต์ โดยการแข่งขันเริ่มขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม ปีเดียวกัน[18]
เกียรติประวัติ [แก้]
- อดีตแชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่น 126 ปอนด์
- อดีตแชมป์ประเทศไทย มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวท 126 ปอนด์
- อดีตแชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นไลท์เวท
- แชมป์มวยไทยมาราธอน โตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ในพ.ศ. 2545
- แชมป์ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2004 ในพ.ศ. 2547
- รองแชมป์ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2005 ในพ.ศ. 2548
- S1 ซูเปอร์เวลเธอร์เวท เวิลด์แชมเปี้ยน
- WMC มิดเดิ้ลเวทเวิลด์แชมเปี้ยน[19]
- แชมป์ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2006 ในพ.ศ. 2549
- พ.ศ. 2554 แชมป์ไทยไฟท์ 2011 (70 กก.)[